บทที่ 2 2

ฮองเฮาในชุดฉลองพระองค์สีทองเหลืองอร่ามกำลังมองที่ครอบนิ้วทำจากทองฉลุลายดอกไม้อย่างพึงพอใจหากนางทำได้จะหันไปตะกุยพระพักตร์ฮ่องเต้ใจร้ายให้เสียโฉมแต่นางเองคงหนีไม่พ้นถูกลากไปประหารอย่างโหดเหี้ยม

“พวกนางกำนัลถูกข้าไล่ไปหมด คราวนี้เจ้าคงถอดชุดออกได้แล้ว เจ้าบอกเองถ้าเจ้าแพ้ข้า จะห่มคลุมด้วยผ้าลายดอกบัวเพียงผืนเดียวยืนกลางอุทยานดอกท้อ”

พระพักตร์ของจางฮองเฮาซีดขาวไม่สู้ดีนัก “ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท” เมื่อแหงนพระพักตร์งดงามประกอบกับชุดที่สวมใส่ ฉินซือเฉิงอดคิดไม่ได้ร่างอรชรตรงหน้าเป็นฉางเอ๋อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ในนิทานปรัมปราหรือฮองเฮาคู่บัลลังก์ที่พระองค์พยายามเลื่อยขาเก้าอี้ให้นางตกบัลลังก์ลงมาคอหักตาย

น่าเสียดายรูปโฉมของนางที่งดงามล่มเมืองแต่สติปัญญาโง่เง่าเท่ากับไข่ปลา

ฉินซือเฉิงกระตุกยิ้มมุมปาก “เจ้าออกไปทำตามสัญญาได้แล้ว”

สุรเสียงเร่งเร้า พระพักตร์ที่เคร่งขรึมขึ้นตามลำดับของฉินซือเฉิงทำให้จางชิงหลินใจเต้นแรงด้วยความไม่แน่ใจ “ฝ่าบาทจะให้หม่อมฉันออกไปยืนตากหิมะในเวลานี้จริงๆหรือเพคะ เวลานี้ยามซวี (19.00-20.59 น. )แล้วนะเพคะ” นางชักไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นของพระสวามีผู้สูงศักดิ์ของนางหรือไม่

ดวงตาคมดุเข้มขึ้นอย่างน่ากลัว “ข้าไม่ได้พูดเล่น คำพูดของข้าเจ้ากล้าเห็นเป็นเรื่องเล่นเช่นนั้นหรือ”

จางชิงหลินตกใจกับน้ำเสียง จิตใจไม่สู้ดีนัก นางเพ่งมองดวงตาคมกริบของคนพูดก็ไม่เห็นแววล้อเล่น ดวงใจนางกระตุกรุนแรง ถ้าหากนางคลุมผ้าผืนเดียวออกไปยืนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ ร่างกายนางคงทนไม่ไหวต้องแข็งตายแน่

เสียงขันทีด้านนอกดังขึ้น ทำให้จางชิงหลินหันไปมอง คนที่เข้ามาใหม่ไม่รอให้นางอนุญาต ก็เดินกรีดกรายเข้ามา

“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”

“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา” จางชิงหลินถามเสียงแข็ง จ้องหน้าคนมาใหม่ราวกับอยากจะกินเลือดกินเนื้อ นางคือเซียวลี่อิน ดำรงตำแหน่งกุ้ยเฟย และตอนนี้ก็เป็นที่โปรดปรานอย่างมาก

“พี่หญิงอารมณ์ไม่ดี หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันกลับออกไปก็ได้”

จางชิงหลินโมโหแต่ก็ข่มกลั้นอารมณ์ไว้ ตำหนักเย่วซินเป็นตำหนักของนางให้ใครเข้าออกได้ตามอำเภอใจหรือ นางมองหน้าคังกงกงที่ปล่อยให้เซียวลี่อินเข้ามาโดยพลการก็กำมือแน่น

“เจ้าไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้นลี่อิน ข้ามีเรื่องสนุกจะให้เจ้าดู” ฉินซือเฉิงพูดขึ้น สะบัดชายแขนเสื้อแล้วดึงร่างอรชรของเซียวลี่อินมาใกล้ๆ

“เรื่องอะไรเพคะ”

คำถามของเซียวลี่อินทำให้จางชิงหลินเองก็อยากรู้เหมือนกัน นางจ้องหน้าโอรสสวรรค์ที่เป็นพระสวามีร่วมผูกผม นางเห็นเขามองนางกลับมาด้วยแววตาเคร่งขรึม จริงจัง ร่างทั้งร่างของนางพลันสั่นยะเยือก

“ชิงหลินเจ้ายังไม่รีบเปลี่ยนชุดไปทำตามสัญญาอีก ที่ด้านนอกตอนนี้อากาศกำลังดี ข้ากับลี่อินอยากชมทิวทัศน์งดงามที่มีเจ้ายืนตากหิมะอยู่ข้าอยากดูว่าเจ้ากับหิมะอะไรจะขาวกว่ากัน คังกงกงสั่งให้ใครไปเตรียมสุรากับอาหารให้พร้อม ข้าจะร่ำสุราชมราตรีกับเซียวกุ้ยเฟย”

เซียวลี่อินยิ้มหวานชดช้อย ขณะที่จางชิงหลินเบิกตาแทบถลน ตอนแรกนางไม่เข้าใจพระสวามีของนางว่ากำลังทำอะไร แต่ตอนนี้นางเข้าใจดีแล้ว เขามอบผ้าดิ้นทองลายดอกบัวให้นางเพื่อให้นางชื่นชมในตอนแรกก่อนจะมอบความอัปยศอดสูที่สุดให้กับนางภายหลัง

พระสวามีของนาง ต้องการให้นางไปยืนตากหิมะให้เขากับเซียวลี่อินชื่นชมเปรียบเทียบความขาว เขาจะให้นางทำเช่นนั้นจริงๆหรือ

จางชิงหลินกำมือแน่น น้ำตารื้นขึ้นมา ร้อนไปทั้งทรวงอก คิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่นางอภิเษกเข้ามาเป็นฮองเฮา นางพยายามแล้วที่จะตามใจพระสวามี เมื่อวานโอรสสวรรค์ให้นางเล่นหมากรุกโดยมีข้อแม้ว่าหากนางแพ้ นางต้องสวมผ้าผืนเดียวไปยืนตากหิมะ

นางต้องการเอาใจพระสวามีจึงยอมเล่น ตอนแรกนางจะชนะอยู่แล้ว แต่นางไม่อยากให้โอรสสวรรค์เสียหน้า นางจึงแกล้งแพ้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะให้นางไปยืนตากหิมะจริงๆ

‘ใจร้ายยิ่งนัก’

“ในเมื่อเป็นพระบัญชา หม่อมฉันก็จะทำตามรับสั่ง” จางชิงหลินตอบเสียงแผ่ว นางกัดฟันลุกขึ้นยืน นางไม่ใช่คนโปรด ทำอะไรก็ผิด ครั้งแรกที่เข้าหอเขาก็ไม่แตะต้องนาง นางก็ไม่ว่า แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าเขาไปเข้าหอกับนางกำนัลของนางแทน จนมาถึงบัดนี้นางกับเขาก็ไม่เคยร่วมเตียงฉันท์สามีภรรยาสักครั้งเดียว

ตอนแรกที่นางแต่งมาเป็นฮองเฮา นางยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าสักวันหนึ่ง ฉินซือเฉิงต้องเห็นความรักภักดีที่นางมีต่อเขาจนเขาใจอ่อนเมตตามอบความรักให้นางเอง แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าฉินซือเฉิงกำลังลุ่มหลงพระสนมคนโปรดอย่างมาก         “ตอบได้ดี ฮองเฮาพูดแล้วไม่คืนคำ รีบไปทำเถอะ อย่าให้ข้ากับลี่อินต้องคอยนาน” ฉินซือเฉิงกระตุกยิ้มเหี้ยม มองฮองเฮาที่ได้มาเพราะถูกยัดเยียดด้วยความจำใจ ก่อนจะโอบรอบเอวสนมคนโปรดออกไป

จางชิงหลินขอบตาแดงก่ำกัดริมฝีปากแน่นดวงตาที่เคยส่องประกายงดงามตอนนี้กลับมีน้ำตาคลอหน่วย สองมือกำแน่น

ลู่เจียวกับจิวฮุ่ยนางกำนัลคนสนิทจึงค่อยๆคลานเข่าเข้ามากอดขานาง “ฮองเฮาเพคะอย่าออกไปเลยเพคะ หม่อมฉันจะไปตามหมอหลวงมาแล้วบอกว่าฮองเฮาป่วย จะออกไปยืนตากหิมะไม่ได้”

มาบัดนี้จางชิงหลินเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว ฉินซือเฉิงต้องการเอาใจเซียวลี่อิน และต้องการทำให้นางอาย ถ้าหากวันนี้รอดชะตากรรมครั้งนี้ได้ ก็ต้องมีครั้งหน้าที่พวกเขาต้องการให้นางอายจนถอดถอนตัวเองออกจากตำแหน่งฮองเฮาเพราะฮองเฮาที่ไหนจะไปยืนตากหิมะเหมือนคนสติวิปลาส

บทก่อนหน้า
บทถัดไป